ฤดูที่แตกต่าง กับความชิด-ความห่างของวงกบประตู
แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กระจกใสเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะในส่วนของหน้าต่าง ไม้จึงเหลือใช้เป็นแค่กรอบบาน แถมวัสดุก็ค่อยๆ เพิ่มทางเลือกมากมายเช่น อลูมิเนียม ยูพีวีซี และไม้ดีหายากขึ้น ราคาแพงขึ้น งานประกอบประตูไม้จริงยังต้องพึ่งพาช่างฝีมือ แถมไม้ส่วนใหญ่ยังแพ้ปลวกและมอด และเพราะไม้มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ควบคุมได้ยาก คือ มีการยืดหดตัวสูง แต่ทุกวันนี้ ยังเหลือประตูบานทึบที่ยังนิยมใช้ไม้กันอยู่ ซึ่งเอาเข้าจริง ความรู้สึกของคนยังยึดติดกับประตูไม้อยู่มาก ขนาดที่วัสดุประตูเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่น ก็มักจะยังทำลวดลายให้ดูเหมือนไม้อยู่ดี
นั่นแสดงว่าประตูไม้จริงยังเป็นที่ถูกใจ สำหรับประตูไม้จริง (ที่เป็นไม้ตัน ไม่ใช่ไม้อัดเป็นแผ่น ๆ มาประกอบกับโครง) มักจะมีปัญหาเรื่องการหดตัวที่เห็นได้ชัด แต่พฤติกรรมการหดตัวของไม้ก็เดาทางได้ คือ เมื่อไม้เจอกับความชื้นไม้จะขยายตัว แต่พอเจอกับอากาศแห้งไม้ก็จะหดตัวลง นั่นทำให้เราต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดให้กับไม้บ้าง ถ้าติดตั้งประตูไม้ในช่วงที่อากาศชื้น(หน้าฝน) เราต้องทำให้ประตูเปิดปิดให้กระชับเต็มกรอบพอสมควร
เพราะเมื่อถึงช่วงที่มีอากาศแห้ง ประตูจะหดตัวลง เรื่องร่องที่ทำให้ประตูหดตัวจนห่างจากวงกบมากขึ้นอาจจะไม่ได้ห่างจนประตูโหว่โผล่ไปเห็นอีกด้าน แต่อาจมีผลกับระบบล็อคของลูกบิดได้ เพราะระยะที่ห่างขึ้นทำให้อุปกรณ์ล็อกบนบานหนีห่างจากช่องรับเดือยล็อคบนวงกบมากขึ้น จนทำให้ประตูล็อคไม่สนิทได้
แต่ส่วนที่เป็นปัญหาจริงๆ คือ ประตูไม้ที่ติดตั้งในช่วงอากาศแห้ง หากทำตัวบานประตูไว้เนี้ยบกริบสนิทพอดี พอไปถึงวันที่อากาศชื้น ประตูขยายตัว อาจทำให้ประตูปิดลำบากหรือปิดไม่เข้า (โดยเฉพาะเมื่อรวมกับปัญหาบานพับประตูตกอีกเล็กน้อยก็โป๊ะเช้ะ) ฉะนั้น หากติดตั้งประตูไม้จริงในหน้าหนาว เราควรจะเว้นร่องให้มากหน่อย (ทำประตูให้เล็กหลวมกว่าที่ควรเป็นนิดหน่อย) หากติดตั้งในหน้าฝนหรือช่วงที่มีอากาศชื้น ก็ทำให้บานประตูแนบเกือบสนิทเต็มร่องนิดนึงครับ ข้อยกเว้นของหลักการนี้อยู่ที่อายุและคุณสมบัติของประตูไม้ที่ใช้ด้วยนะครับ
ถ้าประตูไม้ที่ใช้เป็นไม้เนื้อแข็งแห้งสนิท หรือประตูไม้เก่า การหดตัวขยายตัวน้อยลงกว่าประตูไม้ใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องเผื่อระยะนี้ไว้มากมายครับ อยู่กับวัสดุธรรมชาติ ย่อมต้องอยู่คู่กับความเข้าใจธรรมชาติของวัสดุครับ
จากใจ ZmyHome ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ