สังเกตกันไหม ทำไมกระจกบนตึกสูงจึงไม่เรียบกริ๊บ?

อันว่ากระจกที่ดีมันควรสะท้อนภาพอย่างตรงไปตรงมา เช่นเมื่อส่องหน้าส่องตัวก็ควรจะเห็นหน้าเห็นตัวเราตามที่เป็นจริงโดยไม่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยน แต่ท่าน ๆ เคยเงยหน้าขึ้นไปบนตึกสูงระฟ้าไม่ว่าบ้านเราหรือที่ต่างประเทศกันหรือไม่ เงยหน้าขึ้นไปดูทีไร กระจกที่อยู่บนตึกสูงก็สะท้อนเงาสภาพแวดล้อมข้างเคียงที่ยึกยือไปมา ไม่เคยตรงสักที

หรือนั่นเป็นเพราะกระจกไม่ดี การติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน หรือตึกสูงมีลมพัดแรงจนกระจกบิดเบี้ยวไปมากันแน่ !!??

อันที่จริงแล้วกระจกสำหรับตึกสูงที่ดี มันต้องไปลอนพลิ้ว ๆ ดูไม่เรียบแบบที่เห็นกันอยู่นี่แหละครับ แล้วเพราะอะไรกัน?

เพราะ กระจกที่ใช้ในตึกสูงมีกฎหมายกำหนดไว้ ให้ใช้กระจกที่มีความปลอดภัย จึงต้องใช้กระจกชนิดแข็งแรงพิเศษ ต้องมีแผ่นกาวติดยึดไม่ล่วงหล่นเมื่อกระจกแตก บางชนิดแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่า กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) กระจกที่มีคุณลักษณะแข็งแรงเป็นพิเศษเหล่านี้ มีคุณสมบัติผิวไม่เรียบติดตัวอยู่ด้วยเสมอ

โดยกระบวนการทำกระจกแข็งแรงพิเศษ เริ่มต้นจากการผลิตกระจกธรรมดา ซึ่งโดยทั่วไปกระจกธรรมดาจะมีผิวหน้าเรียบกริบ เพราะเกิดจากการเทน้ำกระจกลงบนผิวดีบุกเหลว แล้วปล่อยให้กระจกลอยตัวนิ่ง กระจกเหลวจะนอนตัวเรียบตามแรงดึงดูดของโลก เมื่อเย็นตัวลงจึงได้กระจกที่เรียบตรง และสะท้อนภาพได้ตรงไปตรงมาชัดเจน

แต่เพื่อเพิ่มความแข็งแรงจึงต้องนำกระจกที่ได้มาอบให้ร้อนและทำให้เย็นหลาย ๆ รอบ เมื่อกระจกผ่านกระบวนการนี้แล้วจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เนื้อกระจกมากขึ้น เพราะผิวหน้ากระจกสะสมความเครียด อัดตัวกันหนาแน่นขึ้น ผิวกระจกจึงเริ่มไม่ราบเรียบ ดูพลิ้วเล็กน้อยที่ขั้นตอนนี้เอง

อันที่จริงความพลิ้วของผิวกระจกที่ระดับสายตาจะเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เมื่อกระจกแต่ละแผ่นต่อกันกลายเป็นผนังผืนใหญ่ที่เราเห็นกันในตึกสูง เราจะสังเกตเห็นได้ทันทีว่าผิวกระจกไม่เรียบ

นี่แหละครับ คือที่มาที่ไปว่าทำไมภาพสะท้อนสิ่งแวดล้อมบนกระจกในตึกสูง ๆ จึงไม่เคยสะท้อนภาพได้ตรงและคมกริบได้จริงซักที ภาพสะท้อนที่พลิ้วไหว จึงแสดงให้เห็นว่ากระจกที่ตึกนั้น ๆ ใช้มีความแข็งแรงปลอดภัยกว่ากระจกธรรมดา

จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ