จัดการเชื้อราขึ้นบ้าน ด้วยสารพันสารเคมีในครัวเรือน
"ย่างเข้าเดือน 6 ฝนก็ตกพรำ ๆ" ท่อนแรกจากบทเพลง “ฝนเดือนหก” ของรุ่งเพชร แหลมสิงห์ น่าจะบอกสภาพอากาศของเมืองไทยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะหันไปที่ใดในช่วงนี้ก็จะพบกับฝนที่คอยเข้ามากวนใจ ไม่เว้นแม้แต่หลังฝนหยุดที่จะพบกับร่องรอยของฝนที่คอยกัดเซาะ รวมถึงเรื่องของคราบตามจุดต่าง ๆ ที่ก่อขึ้นจาก “เชื้อรา” ตามพื้น ผนัง เพดาน ของบ้าน คอนโด จนเกิดเป็นรอยด่าง
ซึ่งหากว่ารอยด่างเพียงสร้างความน่ารำคาญตาก็คงจะไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ เพียงแต่เชื้อรานั้นจะมีความร้ายกาจจากสปอร์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และอาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ จาม เจ็บคอ ปวดศีรษะได้ โดยที่บางรายหากแพ้หนักมาก ๆ อาจมีอาการเจ็บหน้าอก เป็นหอบ และอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่งทางที่ดีเมื่อเราเห็นคราบรอยเหล่านี้ควรเริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นลมกันเลย เพื่อไม่ให้เชื้อรามาก่อกวนถึงสุขภาพของคนในบ้าน โดยเริ่มจากสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันเชื้อโรคและเริ่มลงมือ ซึ่งการกำจัดเชื้อราสามารถทำได้หลายวิธี โดยใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาได้ง่ายในบ้านก็ทำได้
แอลกอฮอล์
เริ่มจากวัสดุที่หลายบ้านน่าจะมีไว้ติดบ้านอย่าง แอลกอฮอล์ ที่ไว้คอยฆ่าเชื้อต่าง ๆ ที่เป็นอุปกรณ์ล้างแผล และทำความสะอาดวัสดุต่าง ๆ โดยเลือกเอาแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นมาใช้ ซึ่งวิธีกำจัดเชื้อราก็ง่าย เพียงแค่ราดแอลกอฮอล์ลงไปในจุดที่มีเชื้อราและทิ้งไว้สักพัก พอให้แอลกอฮอล์ซึมลงไป จากนั้น จึงใช้แปรงขัดเชื้อราออก ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น
น้ำส้มสายชู
นับเป็นเครื่องปรุงสารพัดประโยชน์จริง ๆ สำหรับคนชอบรับประทานรสเปรี้ยวและมีน้ำส้มสายชูไว้ติดครัวเรือน ซึ่งวิธีทำก็คล้ายกับแอลกอฮอล์โดยการราดน้ำส้มสายชูไปยังร่องรอยของเชื้อรา รอสักพักและใช้แปรงขัดออกก็เป็นอันเสร็จพิธี ปิดฉากเชื้อรากวนใจกันไปเลย
สารฟอกขาว
นับเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการกำจัดเชื้อราเช่นกัน สำหรับสารฟอกขาวที่เรามักไว้ใช้ซักผ้าขาว เพราะในสารฟอกขาวจะมีสารที่มีคุณสมบัติจัดการกับเชื้อราได้เป็นอย่างดี โดยผ่านขั้นตอนการผสมเล็กน้อยด้วยการนำสารฟอกขาวมาเจือจางและผสมลงในน้ำในอัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร และผสมให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปทาบนพื้นผิวที่มีเชื้อรา ปล่อยทิ้งไว้สักพักและขัดออกด้วยแปรงเบา ๆ แต่ยังไม่ควรจะใช้น้ำสะอาดเช็ดในทันที โดยควรปล่อยให้สารฟอกขาวซึมลึกไปที่เชื้อราสักประมาณ 4-5 วันแล้วจึงใช้น้ำอุ่นพร้อมกับผ้าสะอาดมาเช็ดออก
เพียงแค่ทำความสะอาดตามขั้นตอน เท่านี้เราจะก็จะได้บ้านที่สะอาด ปราศจากเชื้อราแล้วล่ะ แต่ก่อนลงมือทำก็อย่าลืมหาหน้ากากอนามัยมาใส่กันเชื้อโรคกันด้วยนะครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ซึ่งหากว่ารอยด่างเพียงสร้างความน่ารำคาญตาก็คงจะไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ เพียงแต่เชื้อรานั้นจะมีความร้ายกาจจากสปอร์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และอาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ จาม เจ็บคอ ปวดศีรษะได้ โดยที่บางรายหากแพ้หนักมาก ๆ อาจมีอาการเจ็บหน้าอก เป็นหอบ และอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่งทางที่ดีเมื่อเราเห็นคราบรอยเหล่านี้ควรเริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นลมกันเลย เพื่อไม่ให้เชื้อรามาก่อกวนถึงสุขภาพของคนในบ้าน โดยเริ่มจากสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันเชื้อโรคและเริ่มลงมือ ซึ่งการกำจัดเชื้อราสามารถทำได้หลายวิธี โดยใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาได้ง่ายในบ้านก็ทำได้
แอลกอฮอล์
เริ่มจากวัสดุที่หลายบ้านน่าจะมีไว้ติดบ้านอย่าง แอลกอฮอล์ ที่ไว้คอยฆ่าเชื้อต่าง ๆ ที่เป็นอุปกรณ์ล้างแผล และทำความสะอาดวัสดุต่าง ๆ โดยเลือกเอาแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นมาใช้ ซึ่งวิธีกำจัดเชื้อราก็ง่าย เพียงแค่ราดแอลกอฮอล์ลงไปในจุดที่มีเชื้อราและทิ้งไว้สักพัก พอให้แอลกอฮอล์ซึมลงไป จากนั้น จึงใช้แปรงขัดเชื้อราออก ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น
น้ำส้มสายชู
นับเป็นเครื่องปรุงสารพัดประโยชน์จริง ๆ สำหรับคนชอบรับประทานรสเปรี้ยวและมีน้ำส้มสายชูไว้ติดครัวเรือน ซึ่งวิธีทำก็คล้ายกับแอลกอฮอล์โดยการราดน้ำส้มสายชูไปยังร่องรอยของเชื้อรา รอสักพักและใช้แปรงขัดออกก็เป็นอันเสร็จพิธี ปิดฉากเชื้อรากวนใจกันไปเลย
สารฟอกขาว
นับเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการกำจัดเชื้อราเช่นกัน สำหรับสารฟอกขาวที่เรามักไว้ใช้ซักผ้าขาว เพราะในสารฟอกขาวจะมีสารที่มีคุณสมบัติจัดการกับเชื้อราได้เป็นอย่างดี โดยผ่านขั้นตอนการผสมเล็กน้อยด้วยการนำสารฟอกขาวมาเจือจางและผสมลงในน้ำในอัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร และผสมให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปทาบนพื้นผิวที่มีเชื้อรา ปล่อยทิ้งไว้สักพักและขัดออกด้วยแปรงเบา ๆ แต่ยังไม่ควรจะใช้น้ำสะอาดเช็ดในทันที โดยควรปล่อยให้สารฟอกขาวซึมลึกไปที่เชื้อราสักประมาณ 4-5 วันแล้วจึงใช้น้ำอุ่นพร้อมกับผ้าสะอาดมาเช็ดออก
เพียงแค่ทำความสะอาดตามขั้นตอน เท่านี้เราจะก็จะได้บ้านที่สะอาด ปราศจากเชื้อราแล้วล่ะ แต่ก่อนลงมือทำก็อย่าลืมหาหน้ากากอนามัยมาใส่กันเชื้อโรคกันด้วยนะครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
