บีทีเอส เดินรถ 4 สถานีใหม่ ธ.ค.นี้
โดยการทดสอบการเดินรถนั้น บริษัทฯ ได้นำรถไฟฟ้าวิ่งทดสอบในราง (Test Track) พร้อมทดสอบระบบรวม (System Integration Test) เช่น ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบการสื่อสาร เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานทุกระบบสอดคล้องกัน มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย ภาพรวมการทดสอบเดินรถไป-กลับระหว่าง 4 สถานี ผลเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีข้อบกพร่อง
ทั้งนี้การทดสอบดังกล่าวทางบริษัทฯ จะดำเนินการทดสอบทุกวันนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจนถึงต้นเดือน พ.ย. และหลังจากนั้น บริษัทฯ จะเปลี่ยนรูปแบบการทดลองเป็นการเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) เพื่อทดสอบภาพรวมของการให้บริการอีกครั้ง ก่อนจะเปิดให้บริการประชาชนภายในเดือน ธ.ค.2562 ตามแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการจะช่วยแบ่งเบาปัญหาจราจรบนถนนพหลโยธินให้ลดน้อยลงได้
นายสุรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เจ้าหน้าที่สถานี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวม 100 กว่าอัตรา ในการให้บริการผู้โดยสาร พร้อมจัดหลักสูตรอบรมเจ้าหน้าที่อย่างเข้มข้น ทั้งด้านการให้บริการด้านความปลอดภัย รวมถึงการซ้อมแผนฉุกเฉินอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดให้บริการไปถึงสถานีคูคต ในปี 2563
สำหรับจำนวนขบวนรถไฟฟ้าที่บริษัทฯ ให้บริการในระบบปัจจุบันมีทั้งสิ้น 84 ขบวน ส่วนขบวนใหม่ที่ได้ทำสัญญาจัดซื้อ จำนวน 46 ขบวน จากบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จำนวน 22 ขบวน ได้รับมอบครบทั้งหมดแล้ว และจากบริษัท ซีอาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำนวน 24 ขบวน ขณะนี้รับมอบแล้วจำนวน 10 ขบวน เหลืออีก 14 ขบวน จะส่งมอบแล้วเสร็จภายใน มี.ค.2563 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีขบวนรถไฟฟ้าที่สามารถรองรับการให้บริการรวมทั้งหมด 98 ขบวน ซึ่งจะช่วยให้การเดินรถทุกเส้นทางมีประสิทธิภาพสูงสุด
"บีทีเอสจะนำขบวนรถมาเตรียมให้บริการเชื่อมต่อจากสถานีหมอชิต มายังสถานีห้าแยกลาดพร้าว ผู้โดยสารสามารถสุดปลายทางสถานีหมอชิต และต่อขบวนรถมายังสถานีห้าแยกลาดพร้าวได้เลย สามารถซื้อตั๋วโดยสารมาจากสถานีอะไรก็ได้ แต่เมื่อมาลงสถานีห้าแยกลาดพร้าว จะไม่คิดค่าบริการสถานีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้โดยสารในระบบเดิมของ บีทีเอส ที่ปัจจุบันลงสถานีหมอชิตเฉลี่ย 8 หมื่นคนต่อวัน จะนั่งเชื่อมมายังสถานีห้าแยกลาดพร้าวราว 50% หรือ 4 หมื่นคนต่อวัน"
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์