สำคัญสุดๆ ได้คนเช่าแล้ว ต้องทำอะไรก่อนย้ายเข้า?
โดย ตุ๊กตา ZmyHome
เจ้าของห้องที่ซื้อคอนโดสร้างเสร็จใหม่มาปล่อยเช่า มักคิดว่าคอนโดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ คงไม่ค่อยมีปัญหาตอนเข้าอยู่ และอาจไม่ค่อยสนใจการย้ายเข้าของลูกค้า โดยที่ไม่ยอมมาดูห้องเมื่อวันย้ายเข้า หรือบางรายมีการเคยปล่อยห้องมาก่อน แต่ไม่เคยมาดูตั้งแต่ผู้เช่าเก่าย้ายออกคนกระทั่งมีคนเช่าใหม่ บางทีคนเช่าตอนเข้าก็ลืมดู เพราะไม่เคยเช่าห้องมาก่อน นายหน้ามืออาชีพ จะตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดก่อนย้ายเข้า เพราะพวกเขาทราบดีว่า การเจรจาเรื่องซ่อมและค่าใช้จ่ายภายหลังจากที่ย้ายเข้าแล้วเป็นเรื่องยากมาก
โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าของไม่เคยมาดูห้องเลยแม้กระท้่งตอนย้ายเข้า เพราะเจ้าของมักจะไม่เชื่อว่าปัญหามีมาตั้งแต่ก่อนย้ายเข้าแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ นายหน้ามืออาชีพต้องย้ำกับผู้เช่าให้ชัดเจนว่าหากพบปัญหาอะไรก็ตามภายในสัปดาห์แรก ต้องรีบแจ้งให้หมด อย่าเกรงใจ ปัญหาต่าง ๆ จะได้แก้ไข อย่างทันทวงที ซึ่งคนท่ีเช่าด้วยตัวเองไม่ผ่านนายหน้า ก็ตรวจสอบได้เองด้วยเช่นกัน ปัญหาถ้ารีบแก้ก็ง่าย ยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งหมักหมม สุดท้ายก็ต้องแก้อยู่ดีแถมยังจะยิ่งแก้ยากมากขึ้น บางคนทนเอาอยู่จนหมดสัญญาไม่ได้แก้ แต่ดันโดนเจ้าของห้องเรียกค่าปรับ เพราะตอนย้ายเข้าไม่รู้ว่ามีปัญหาเหล่านี้มาก่อน
การตรวจสอบห้องให้ละเอียดตั้งแต่ก่อนย้ายเข้า ไม่ได้สำคัญเฉพาะผู้เช่าเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับเจ้าของห้องด้วย เพราะถ้าปัญหาหลายอย่างจำเป็นจะต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร การนัดช่างระหว่างที่มีผู้เช่าแล้วมักเจอปัญหาการนัดเวลาระหว่างผู้เช่ากับช่างให้ตรงกัน เพราะเพื่อป้องกันกรณีของหาย แถมผู้บริหารระดับบนก็มักจะไม่ค่อยว่างวันธรรมดา ส่วนช่างก็ไม่ว่างวันเสาร์อาทิตย์ ที่ยากไปกว่านั้นบางกรณีช่างที่ตึกไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องหาช่าง หรือ Supplier ข้างนอก หรือช่างเฉพาะทางมาช่วยแก้ การแก้ปัญหาก็จะยุ่งยากขึ้นไปอีก ดังนั้นการป้องกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่าควรระมัดระวังมีดังนี้
ความเสียหายที่สังเกตเห็นได้ - น้ำรั่วตามที่ต่างๆ เช่น ในครัว อ่างล้างหน้า แอร์ - ประตูห้องต่างๆ ตกติดพื้น ใช้ไปสักพักอาจทำพื้นเป็นรอยหรือประตูสึก - รางม่านเสีย - บานหน้าต่างติด ฝืด - ม่านแบบไม้ติด ใช้การไม่ได้ - มุ้งลวดหมดอายุ - ประตูตามตู้ต่าง ๆ หัก แตก ปิดไม่สนิท
ความเสียหายที่มองไม่เห็น - ไม่มีแบตเตอรี่ หรือแบตหมด เช่น ประตูที่เปิดด้วยรหัส คีย์การ์ด และรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้า - ไฟในตู้เสื้อผ้าเสีย (ตอนดูห้องมาดูตอนกลางวัน) - เครื่องทำน้ำร้อนไม่ทำงาน (ไม่ได้ทดลองใช้น้ำร้อน) - ชักโครกกดไม่ได้ (ไม่ได้ทดลองกดชักโครก) - ท่อระบายน้ำส่งกลิ่นเหม็น - แอร์ไม่เย็นหรือมีกลิ่น - น้ำรั่ว จะอันตรายมากๆ หากเป็นการรั่วอยู่ในฝ้า พื้น หรือผนัง ที่ต้องหาที่มาของน้ำ บางรายถึงขั้นต้องรื้อพื้นและย้ายออกเลยก็มี
ขอให้เจ้าของห้องและผู้เช่าทุกคนเข้าใจว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาก็จะช่วยบรรเทาให้หนักเป็นเบา
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
เจ้าของห้องที่ซื้อคอนโดสร้างเสร็จใหม่มาปล่อยเช่า มักคิดว่าคอนโดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ คงไม่ค่อยมีปัญหาตอนเข้าอยู่ และอาจไม่ค่อยสนใจการย้ายเข้าของลูกค้า โดยที่ไม่ยอมมาดูห้องเมื่อวันย้ายเข้า หรือบางรายมีการเคยปล่อยห้องมาก่อน แต่ไม่เคยมาดูตั้งแต่ผู้เช่าเก่าย้ายออกคนกระทั่งมีคนเช่าใหม่ บางทีคนเช่าตอนเข้าก็ลืมดู เพราะไม่เคยเช่าห้องมาก่อน นายหน้ามืออาชีพ จะตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดก่อนย้ายเข้า เพราะพวกเขาทราบดีว่า การเจรจาเรื่องซ่อมและค่าใช้จ่ายภายหลังจากที่ย้ายเข้าแล้วเป็นเรื่องยากมาก
โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าของไม่เคยมาดูห้องเลยแม้กระท้่งตอนย้ายเข้า เพราะเจ้าของมักจะไม่เชื่อว่าปัญหามีมาตั้งแต่ก่อนย้ายเข้าแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ นายหน้ามืออาชีพต้องย้ำกับผู้เช่าให้ชัดเจนว่าหากพบปัญหาอะไรก็ตามภายในสัปดาห์แรก ต้องรีบแจ้งให้หมด อย่าเกรงใจ ปัญหาต่าง ๆ จะได้แก้ไข อย่างทันทวงที ซึ่งคนท่ีเช่าด้วยตัวเองไม่ผ่านนายหน้า ก็ตรวจสอบได้เองด้วยเช่นกัน ปัญหาถ้ารีบแก้ก็ง่าย ยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งหมักหมม สุดท้ายก็ต้องแก้อยู่ดีแถมยังจะยิ่งแก้ยากมากขึ้น บางคนทนเอาอยู่จนหมดสัญญาไม่ได้แก้ แต่ดันโดนเจ้าของห้องเรียกค่าปรับ เพราะตอนย้ายเข้าไม่รู้ว่ามีปัญหาเหล่านี้มาก่อน
การตรวจสอบห้องให้ละเอียดตั้งแต่ก่อนย้ายเข้า ไม่ได้สำคัญเฉพาะผู้เช่าเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับเจ้าของห้องด้วย เพราะถ้าปัญหาหลายอย่างจำเป็นจะต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร การนัดช่างระหว่างที่มีผู้เช่าแล้วมักเจอปัญหาการนัดเวลาระหว่างผู้เช่ากับช่างให้ตรงกัน เพราะเพื่อป้องกันกรณีของหาย แถมผู้บริหารระดับบนก็มักจะไม่ค่อยว่างวันธรรมดา ส่วนช่างก็ไม่ว่างวันเสาร์อาทิตย์ ที่ยากไปกว่านั้นบางกรณีช่างที่ตึกไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องหาช่าง หรือ Supplier ข้างนอก หรือช่างเฉพาะทางมาช่วยแก้ การแก้ปัญหาก็จะยุ่งยากขึ้นไปอีก ดังนั้นการป้องกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่าควรระมัดระวังมีดังนี้
ความเสียหายที่สังเกตเห็นได้ - น้ำรั่วตามที่ต่างๆ เช่น ในครัว อ่างล้างหน้า แอร์ - ประตูห้องต่างๆ ตกติดพื้น ใช้ไปสักพักอาจทำพื้นเป็นรอยหรือประตูสึก - รางม่านเสีย - บานหน้าต่างติด ฝืด - ม่านแบบไม้ติด ใช้การไม่ได้ - มุ้งลวดหมดอายุ - ประตูตามตู้ต่าง ๆ หัก แตก ปิดไม่สนิท
ความเสียหายที่มองไม่เห็น - ไม่มีแบตเตอรี่ หรือแบตหมด เช่น ประตูที่เปิดด้วยรหัส คีย์การ์ด และรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้า - ไฟในตู้เสื้อผ้าเสีย (ตอนดูห้องมาดูตอนกลางวัน) - เครื่องทำน้ำร้อนไม่ทำงาน (ไม่ได้ทดลองใช้น้ำร้อน) - ชักโครกกดไม่ได้ (ไม่ได้ทดลองกดชักโครก) - ท่อระบายน้ำส่งกลิ่นเหม็น - แอร์ไม่เย็นหรือมีกลิ่น - น้ำรั่ว จะอันตรายมากๆ หากเป็นการรั่วอยู่ในฝ้า พื้น หรือผนัง ที่ต้องหาที่มาของน้ำ บางรายถึงขั้นต้องรื้อพื้นและย้ายออกเลยก็มี
ขอให้เจ้าของห้องและผู้เช่าทุกคนเข้าใจว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาก็จะช่วยบรรเทาให้หนักเป็นเบา
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
