คอนโดเก่าราคาจะขึ้นไม๊
ช่วงนี้ถ้าใครได้ลองเสริชเว็บ ZmyHome อาจจะเริ่มเจอว่าในทำเลเดียวกัน มีคอนโดประกาศขายราคาต่อตารางเมตรต่างกันครึ่งต่อครึ่ง ดูแล้วช่างหน้าเย้ายวนใจ (โชคดีละเรากำลังจะได้ของดีราคาถูก!!) แต่คอนโดที่ราคาถูกมากเหล่านี้ บางส่วนเป็นโครงการเก่า ทำให้มีคำถามมาทาง Inbox ว่า คอนโดเก่าซื้อไว้ราคาจะขึ้นไม๊?
ถ้าซื้อของถูกแล้วราคาลดลง ยอมซื้อของแพงแต่ราคาขึ้นต่อได้ดีกว่าหรือเปล่า การจะสรุปว่าคอนโดเก่าราคาจะขึ้นหรือไม่ขึ้น คงไม่สามารถสรุปได้ในคำตอบเดียว เพราะสุดท้าย สิ่งที่กำหนดราคาก็คือ ตลาด ซึ่งประกอบด้วย “ความต้องการ” “ทางเลือกที่มี” และเมื่อทรัพย์สินขายต่อได้ในอนาคต “ราคาที่ซื้อมา” และ “ระยะเวลาที่ถือครอง” ก็จะเป็นปัจจัยต่อว่าราคาจะขึ้นหรือลงได้มากขึ้นแค่ไหน ถ้าใครที่เคยซื้อหุ้นก็คงรู้ดีว่า หุ้นที่ดี 1 ตัว ณ ราคาหนึ่งอาจจะถือว่าถูก แต่หุ้นตัวเดียวกันราคาสูงขึ้น ก็กลับไม่น่าลงทุน คอนโดเก่าที่อยู่ใน “ทำเลที่ดี” “มีการดูแลรักษาดี” ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมาะสม ก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะมี “ความต้องการ” อยู่เรื่อยๆ สามารถนำมาปรับปรุงเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มักจะเจอในคอนโดเก่า ที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อราคาในอนาคต ได้แก่
พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ ยากแก่การดูแลรักษา ค่าส่วนกลางเก็บน้อย และปรับขึ้นได้ยาก พื้นที่ส่วนกลางจึงทรุดโทรม ไม่ดึงดูดคนซื้อที่มาดูในอนาคต เพื่อนบ้านบนชั้นเดียวกัน ไม่ดูแลสภาพห้องพักให้ดี และอาจดัดแปลงประตูจนน่าเกลียด งานระบบภายในอาคาร ตรวจสอบได้ยาก และเสียหาย
ห้องชุดฝ้าเพดานเตี้ย หน้าต่างเล็ก รวมทั้งระเบียงเป็นแบบทึบ ทำให้ดูไม่โปร่ง พื้นที่ห้องชุดใหญ่เกินไป ทำให้ต้องใช้เงินปรับปรุงแล้วราคาไม่ต่างกับซื้อห้องชุดใหม่ที่ขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ค่าส่วนกลางยังสูงด้วยเช่นกัน เพราะห้องชุดมีขนาดใหญ่มาก ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่บอกมาด้านบน ทำให้คอนโดเก่าบางแห่ง ถึงแม้ว่าปรับปรุงแล้ว ราคาต่อตารางเมตรก็ยังต่ำคอนโดใหม่ที่อยู่ในทำเลเดียวกันอยู่มาก เพราะผู้ซื้อจะพิจารณาจากเงินทั้งหมดที่ต้องใช้ กับสิ่งที่จะได้รับจากแต่ละ “ทางเลือก” ดังนั้นสิ่งที่เราต้องรู้เมื่อจะซื้อคอนโดเก่า นอกเหนือจากสภาพที่มองเห็นคือ “ราคาที่เสนอขายว่าเป็นราคาที่มีสภาพคล่อง (ราคาที่หาผู้ซื้อได้ง่าย) ในโครงการนั้นหรือไม่ เพราะสิ่งที่ได้มาจากห้องชุดนั้นจริงๆ แล้วอาจเหมือนกับ “ซื้อห้องเปล่า” และต้องรื้อสิ่งที่มีมาอยู่ทิ้งเพื่อทำใหม่ทั้งหมด รวมทั้งสอบถามเรื่องปัญหางานระบบ (และปัญหาการอยู่อาศัยอื่นๆ ในโครงการ) และประมาณการค่าใช้จ่ายในการ “ทำใหม่” ให้ครอบคลุม ราคาโครงการใหม่ที่เราคิดว่าสูงกว่ามากๆ จริงๆ ก็อาจเป็นราคาฟองสบู่ ดังนั้นต้องมั่นใจว่าราคาที่เลือกมาปรียบเทียบ ก็เป็นราคาที่มีสภาพคล่อง เช่นเดียวกัน สรุปสุดท้าย ZmyHome ยังสนับสนุนให้ผู้จะซื้อจะขาย “หาข้อมูลให้ลึกขึ้น” ในการลงทุนครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ถ้าซื้อของถูกแล้วราคาลดลง ยอมซื้อของแพงแต่ราคาขึ้นต่อได้ดีกว่าหรือเปล่า การจะสรุปว่าคอนโดเก่าราคาจะขึ้นหรือไม่ขึ้น คงไม่สามารถสรุปได้ในคำตอบเดียว เพราะสุดท้าย สิ่งที่กำหนดราคาก็คือ ตลาด ซึ่งประกอบด้วย “ความต้องการ” “ทางเลือกที่มี” และเมื่อทรัพย์สินขายต่อได้ในอนาคต “ราคาที่ซื้อมา” และ “ระยะเวลาที่ถือครอง” ก็จะเป็นปัจจัยต่อว่าราคาจะขึ้นหรือลงได้มากขึ้นแค่ไหน ถ้าใครที่เคยซื้อหุ้นก็คงรู้ดีว่า หุ้นที่ดี 1 ตัว ณ ราคาหนึ่งอาจจะถือว่าถูก แต่หุ้นตัวเดียวกันราคาสูงขึ้น ก็กลับไม่น่าลงทุน คอนโดเก่าที่อยู่ใน “ทำเลที่ดี” “มีการดูแลรักษาดี” ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมาะสม ก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะมี “ความต้องการ” อยู่เรื่อยๆ สามารถนำมาปรับปรุงเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มักจะเจอในคอนโดเก่า ที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อราคาในอนาคต ได้แก่
พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ ยากแก่การดูแลรักษา ค่าส่วนกลางเก็บน้อย และปรับขึ้นได้ยาก พื้นที่ส่วนกลางจึงทรุดโทรม ไม่ดึงดูดคนซื้อที่มาดูในอนาคต เพื่อนบ้านบนชั้นเดียวกัน ไม่ดูแลสภาพห้องพักให้ดี และอาจดัดแปลงประตูจนน่าเกลียด งานระบบภายในอาคาร ตรวจสอบได้ยาก และเสียหาย
ห้องชุดฝ้าเพดานเตี้ย หน้าต่างเล็ก รวมทั้งระเบียงเป็นแบบทึบ ทำให้ดูไม่โปร่ง พื้นที่ห้องชุดใหญ่เกินไป ทำให้ต้องใช้เงินปรับปรุงแล้วราคาไม่ต่างกับซื้อห้องชุดใหม่ที่ขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ค่าส่วนกลางยังสูงด้วยเช่นกัน เพราะห้องชุดมีขนาดใหญ่มาก ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่บอกมาด้านบน ทำให้คอนโดเก่าบางแห่ง ถึงแม้ว่าปรับปรุงแล้ว ราคาต่อตารางเมตรก็ยังต่ำคอนโดใหม่ที่อยู่ในทำเลเดียวกันอยู่มาก เพราะผู้ซื้อจะพิจารณาจากเงินทั้งหมดที่ต้องใช้ กับสิ่งที่จะได้รับจากแต่ละ “ทางเลือก” ดังนั้นสิ่งที่เราต้องรู้เมื่อจะซื้อคอนโดเก่า นอกเหนือจากสภาพที่มองเห็นคือ “ราคาที่เสนอขายว่าเป็นราคาที่มีสภาพคล่อง (ราคาที่หาผู้ซื้อได้ง่าย) ในโครงการนั้นหรือไม่ เพราะสิ่งที่ได้มาจากห้องชุดนั้นจริงๆ แล้วอาจเหมือนกับ “ซื้อห้องเปล่า” และต้องรื้อสิ่งที่มีมาอยู่ทิ้งเพื่อทำใหม่ทั้งหมด รวมทั้งสอบถามเรื่องปัญหางานระบบ (และปัญหาการอยู่อาศัยอื่นๆ ในโครงการ) และประมาณการค่าใช้จ่ายในการ “ทำใหม่” ให้ครอบคลุม ราคาโครงการใหม่ที่เราคิดว่าสูงกว่ามากๆ จริงๆ ก็อาจเป็นราคาฟองสบู่ ดังนั้นต้องมั่นใจว่าราคาที่เลือกมาปรียบเทียบ ก็เป็นราคาที่มีสภาพคล่อง เช่นเดียวกัน สรุปสุดท้าย ZmyHome ยังสนับสนุนให้ผู้จะซื้อจะขาย “หาข้อมูลให้ลึกขึ้น” ในการลงทุนครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
